Thursday, February 22, 2018


บทที่1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
จากการสำรวจอุปกรณ์หรือข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่ทำจากวัสดุประเภท โลหะ เช่น เงิน ทองเหลือง ทองแดง เหล็ก อะลูมิเนียม สเตนเลส โครเมียม ฯลฯ ที่ผ่านการใช้งานจนทรุดโทรมหรือเก่าเก็บ ขึ้นสนิม มีคราบสกปรกเช็ดออกยาก จึงดูหม่นหมองไม่เงางามดังเดิม ดังนั้นพวกเราในกลุ่มจึงคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่หาได้จากในชุมชนหรือในท้องถิ่น โดยการประหยัดจากการไปซื้อน้ำยาหรือสเปยร์ที่ใช้ขัดสนิม
         จากการที่พวกเราได้ค้นคว้าและเจอกับพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่หาได้ง่ายและมีทั่วไป คือ ใบส้มกบ ที่มีกรดคล้ายกับมะนาว มะขาม มะกรูด เป็นต้น ใบส้มกบนั้นมีสรรพคุณหลายอย่างพวกเราจึงทำผลิตภัณฑ์จากใบส้มกบเพื่อนำมาขัดคราบสนิมที่เกาะบนเครื่องใช้ให้สะอาดเงางามเหมือนเดิม

วัตถุประสงค์
         1. เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ที่ขจัดคราบสนิมด้วยใบส้มกบทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ
         2. เพื่อทดสอบประสิทธิภาพว่าใบส้มกบขจัดคราบสนิมได้ดีกว่าน้ำยาที่ขายตามท้องตลาด

สมมติฐาน
         1. นำใบส้มกบ ที่มีกรดคล้ายกับมะนาวมาคั้นน้ำหรืออบแห้ง และนำเครื่องใช้ที่มีคราบสนิมมาแช่ไว้แล้วเช็ดล้างออกด้วยน้ำสะอาด จะเห็นได้ว่าใบส้มกบสามารถขจัดคราบสนิมได้จริง
         2. นำเครื่องใช้ที่มีคราบสนิมเกาะอยู่ มาแช่ในน้ำที่คั้นจากใบส้มกบหรือที่ผสมน้ำกับใบส้มกบอบแห้ง เมือเช็ดออกก็จะพบว่าคราบสนิมหายไป
ขอบเขตการศึกษา
ใบส้มกบขจัดคราบสนิมมีขอบเขต  ดังนี้
1.       ขอบเขตเนื้อหา
                   การศึกษาเกี่ยวกับใบส้มกบที่สามารถขจัดคราบสนิมได้
2.ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
2.1  ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคว้าในเรื่องนี้ ได้แก่ ชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบล สันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา 
2.2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าในเรื่องนี้ ได้แก่ ชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบล สันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัดพะเยา
           3. ตัวแปรที่ใช้ในการศึกษา
                    3.1   ตัวแประอิสระได้แก่ กลุ่มชาวบ้านตัวอย่างจำแนกเป็น
                             3.1.1 เพศ แบ่งเป็น
                   3.1.1.1 ชาย
                   3.1.1.2 หญิง
                             3.1.2  อายุ แบ่งเป็น
                   3.1.2.1  30-40  ปี
                   3.1.2.2   41-50 ปี
                   3.1.2.3 มากกว่า 50 ปีขึ้นไป
                             3.1.3   อาชีพ  แบ่งเป็น
                                      3.1.3.1  ข้าราชการ
                                      3.1.3.2  ค้าขาย
                                      3.1.3.3  รับจ้าง/ทั่วไป
                                      3.1.3.4  อื่นๆ
                   3.2    ตัวแปรตาม   ได้แก่  ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบล สันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัดพะเยา

นิยามคำศัพท์
1. ใบส้มกบ หมายถึง เป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วไป เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยและชุ่มชื้น
2. Staphylococcus aureus  หมายถึง แบคทีเรียชนิดนี้ย้อมติดสีแกรมบวก มีรูปร่างเป็นทรงกลม อยู่รวมกันเป็นพวงคล้ายพวงองุ่น ไม่สร้างสปอร์
3. oxalate หมายถึง เป็นสารมีฤทธิ์ในการยับยั้งการดูดซึมของแคลเซียมและแร่ธาตุสำคัญหลายชนิดในกระแสเลือด
4. โครเมียม หมายถึง โลหะสีเงินมันวาวซึ่งทนต่อการกัดกร่อนได้ดี
5. คราบสนิม  หมายถึง  ส่วนของผิวโลหะที่แปรสภาพไปจากเดิมเนื่องด้วยปฏิกิริยาเคมี
6. Escherichia coli  หมายถึง สารที่ซึ่งมีพิษต่อระบบทางดินอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
  
กรอบแนวคิดในการศึกษา
          การศึกษาครั้งนี้ได้นำทฤษฎี ซึ่งมีสาระสำคัญประกอบกับการวิจัยนี้ได้ศึกษากลุ่มชาวบ้านตัวอย่างผู้ศึกษาจึงได้นำหรือประยุกต์จากแนวความคิดดังกล่าวมาใช้และประมวลเป็นกรอบแนวคิดในการวิจัยดังภาพต่อไปนี้

ประโยชน์ที่ได้รับ

1. ได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์ใบส้มกบขจัดคราบสนิมใช้ได้ทั้งแบบแห้งและแบบน้ำ
2. ได้รู้ว่าผลิตภัณฑ์ใบส้มกบขจัดคราบสนิมใช้ได้จริงเหมือนกับน้ำยาที่ขายตามท้องตลาด



บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ในการศึกษาเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับใบส้มกบขจัดคราบสนิมผู้วิจัยได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับใบส้มกบและคราบสนิม  โดยลำดับเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญดังต่อไปนี้
1.       ความหมายของใบส้มกบ
2.       สรรพคุณของใบส้มกบ
3.       ความหมายของสนิม
4.       เครื่องใช้ที่สามารถเกิดสนิม
5.       วิธีการขจัดคราบสนิม
6.       งานวิจัยที่เกี่ยวของ
6.1     งานวิจัยในประเทศ
ความหมายของใบส้มกบ
              
            ใบส้มกบ ชื่อวิทยาศาสตร์: Oxalis corniculata Linn. ชื่ออื่นๆ คือ สังส้ม (แพร่) ผักแว่น (ภาคกลาง) ,ส้มสามตา (เชียงใหม่) ส้มดิน (แม่ฮ่องสอน) เป็นวัชพืชชนิดหนึ่งที่สามารถพบได้ทั่วไป อยู่ในวงศ์ Oxalidaceae เจริญเติบโตได้ดีในดินที่ร่วนซุยและชุ่มชื้น มีความสูง 2-3 นิ้ว เป็นพืชขนาดเล็ก ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ขึ้นปกคลุมผิวดินเป็นกลุ่ม มีอายุหลายปี ลำต้นเป็นไหลทอดยาวไปตามพื้นดิน ลำต้นมีขนปกคลุม ใบเป็นใบประกอบ มีใบย่อย 3 ใบ เกิดจากจุดเดียวกันที่ปลายก้านใบ ใบย่อยมีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ปลายใบเว้า โคนใบแหลม ออกดอกตามซอกใบ เป็นดอกเดี่ยว กลับดอกสีเหลือง ส่วนโคนดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวย ปลายแยกเป็น 5 กลีบ ออกดอกตลอดทั้งปี ติดผลเป็นฝักมีลักษณะ 5 เหลี่ยม มีขนขึ้นปกคลุม ยาว 4-6 มิลลิเมตร เมื่อผลแก่แห้ง จะดีดเมล็ดออกมา


สรรพคุณ
        ตำรับยาไทย  ใบ เป็นยาเย็นดับพิษ มีรสเปรี้ยว เป็นยาธาตุ เจริญอาหาร ใช้ทาภายนอก เพื่อขจัดตาปลา หูด และเนื้อปูดชนิดอื่นๆ โขลกกับสุราใช้กากแก้ปวดฝี แก้บวม ชุบสำลีอมข้างแกม แก้ฝีในคอ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้ไข้ เป็นยาถอนพิษทั่วไป
น้ำคั้นจากใบแก้เจ็บคอ การกินใบมากทำให้คลื่นไส้ได้
ทั้งต้นรสเย็น เปรี้ยวเค็มหวานเล็กน้อย ดับพิษร้อนใน แก้อาเจียนเป็นเลือด ตำพอกเท้าแก้ปวด ถอนพิษทำให้เย็น แก้ฟกชำใน แก้ปวดท้อง แกก้หวัดร้อน แก้ปวดเมื่อยรูมาติก แก้อุจาระเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด แก้เคล็ดขัดยอก เจ็บคอ ปวดฟัน ใช้หยอดตาแก้เจ็บตาระคายเคือง
ในอินโดนีเซีย  ใช้ใบ ผสมกับหัวหอมและเกลือ รับประทานแก้ปวดท้อง
ในออสเตรเลีย  พืชนี้ทำให้แกะตาย โดยมีอาการตัวสั่น และเดินไม่ตรงทาง เนื่องจากแคลเซียมในเลือดลดลง
ความหมายของสนิม           
               ส่วนของผิวโลหะที่แปรสภาพไปจากเดิมเนื่องด้วยปฏิกิริยาเคมีเป็นสาเหตุให้เกิดการผุกร่อนและยังเป็นสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่มีน้ำเป็นผลึกอยู่ในโมเลกุลสูตรเคมีเป็น Fe2O3X XH2O (Hydrated iron (III) oxide) ซึ่งเกิดปฏิกิริยาระหว่างเหล็กกับแก๊สออกซิเจนและน้ำ 4Fe(s) + 3O(g) + 2H2O(l) Fe2OX XH2O(s)

เครื่องใช้ที่สามารถเกิดคราบสนิม
           สำรวจอุปกรณ์หรือข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่ทำจากวัสดุประเภท โลหะ เช่น เงิน ทองเหลือง ทองแดง เหล็ก อะลูมิเนียม สเตนเลส โครเมียม ฯลฯ ที่ผ่านการใช้งานจนทรุดโทรมหรือเก่าเก็บ ขึ้นสนิม มีคราบสกปรกเช็ดออกยาก จึงดูหม่นหมองไม่เงางามดังเดิมได้แก่
เหล็ก โลหะประเภทนี้มีความแข็งแรงอย่างมาก จึงมักใช้ทำเครื่องมือการเกษตรหรือจัดสวนที่ต้องมีความทนทานมากเป็นพิเศษ เช่น จอบ เสียม พลั่ว ฯลฯ รวมถึงเครื่องมือช่างสำหรับการซ่อมบำรุงอย่างค้อน คีม ประแจ ไขควง ฯลฯ หากเก็บรักษาหรือทำความสะอาดไม่ถูกวิธี มักพบปัญหาการเกิดสนิมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้ประสิทธิภาพของเครื่องมือลดน้อยลง
อะลูมิเนียมและสเตนเลส  นิยมนำมาทำเป็นอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ภายในครัว เช่น หม้อ กระทะ รวมทั้งอ่างล้างจาน ชั้นวาง และท็อปเคาน์เตอร์ครัว ข้อดีคือมีคุณสมบัติทนความร้อนหรือนำความร้อนได้ดี เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย ปลอดภัย และไม่เกิดสนิม แต่มักพบปัญหาคราบสกปรกที่กำจัดยาก ซึ่งมีวิธีทำความสะอาดได้ 
ทองแดง ทองเหลือง และเงิน   โลหะประเภทนี้มักนำมาทำเครื่องใช้ภายในบ้านหรือเครื่องสังฆภัณฑ์เช่น พาน เชิงเทียน โกศ แจกัน รวมถึงเครื่องประดับต่าง ๆ ซึ่งค่อนข้างมีราคา เมื่อเก็บไว้ในตู้โชว์เป็นเวลานาน หรือใช้งานบ่อยครั้ง ตามร่องลึกของลวดลายอาจมีคราบสกปรกติดอยู่ ทำให้ดูหมองคล้ำไม่เงางาม
โครเมียม โลหะสีเงินมันวาวซึ่งทนต่อการกัดกร่อนได้ดี นิยมใช้ในอุตสาหกรรมหลายด้าน เช่น อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ รวมถึงชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นสารชุบหรือเคลือบผิวโลหะชนิดอื่น ๆ อีกชั้น เพื่อให้เกิดความเงางาม อย่างการชุบโครงขาเฟอร์นิเจอร์ ก๊อกน้ำ ฝักบัว ฯลฯ ช่วยเพิ่มความหรูหรา และทำให้ผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นดูสวยงามมากขึ้น

วิธีกำจัดคราบสนิม
มะนาว+เกลือ
           คราบสนิมสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วมักจะเกิดกับวัสดุหรือพื้นผิวที่เป็นเหล็ก โลหะ หรือสเตนเลส โดยหากเกิดคราบสนิม แนะนำให้ใช้เกลือแกงสำหรับปรุงอาหาร มาโรยลงบนคราบสนิมพอประมาณ จากนั้นก็บีบน้ำมะนาวลงบนจุดที่โรยเกลือให้ชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ให้เกลือและกรดในน้ำมะนาวทำปฏิกิริยากัดกร่อนคราบสนิมออกมา
น้ำส้มสายชู+กระดาษฟอยล์
เป็นวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายก็คือ การนำกระดาษฟอยล์จุ่มลงไปในน้ำส้มสายชู จากนั้นก็นำมาขัดให้ทั่วบริเวณที่เป็นคราบสนิม ขัดไปเรื่อย ๆ จนคราบสนิมหลุดออกจนหมด
เบกกิ้งโซดา+แปรงสีฟัน
          ถ้าที่บ้านมีเบกกิ้งโซดาติดอยู่ ก็สามารถนำมากำจัดคราบสนิมได้เช่นกัน ด้วยวิธีนำเบกกิ้งโซดามาโรยลงบนบริเวณที่เกิดคราบสนิม จากนั้นให้นำแปรงสีฟันที่ไม่ใช้แล้วมาจุ่มน้ำสะอาดให้ชุ่ม แล้วก็นำมาขัดกำจัดคราบให้หมด
น้ำส้มสายชู
          สำหรับวัสดุชิ้นเล็ก ๆ ที่เกิดสนิม เช่น กรรไกรตัดเล็บ หรือที่เปิดขวด อย่างนี้แนะนำให้กำจัดด้วยวิธีง่าย ๆ ด้วยการนำวัสดุเหล่านั้นมาใส่ลงในภาชนะทรงสูง หรือชามแก้ว จากนั้นก็เทน้ำส้มสายชูลงไปให้พอท่วม เสร็จแล้วก็ทิ้งไว้ข้ามคืนได้เลย วันรุ่งขึ้นคุณก็จะพบว่าคราบสนิมที่เคยเกาะอยู่บนเครื่องมือเครื่องใช้ ได้อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่ต้องเปลืองแรงขัดแม้แต่นิดเดียว
มันฝรั่งดิบ+น้ำยาล้างจาน
โดยการหั่นมันฝรั่งออกครึ่งหนึ่ง แล้วนำไปจุ่มน้ำยาล้างจาน จากนั้นก็นำมาขัดคราบสนิมเมื่อมันฝรั่งเริ่มเปื้อนคราบสนิม ก็ให้ปาดเนื้อมันฝรั่งส่วนบนออก เสร็จแล้วก็นำไปจุ่มน้ำยาล้างจานและนำมาขัดคราบสนิมอีกครั้งทำซ้ำอย่างนี้เรื่อย ๆ จนกว่าคราบสนิมจะหมดไป

งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

โครงงานวิทยาศาสตร์ :  การกำจัดสนิมด้วยน้ำผลไม้รสเปรี้ยว
ชื่อผู้จัดทำโครงงาน 1. นางสาวราตรี ศรีธรรมมา 2. นางสาวสายรุ้ง เริ่มลา 3. นางสาวสร้อยสุดา แสงด่อน
4. นางสาวศรัญญาสุรมาตร์ 5. นายชูชาติ แสงทองกศน.อำเภอ เมืองนครสวรรค์
อาจารย์ที่ปรึกษา 1. อาจารย์กัลยา หอมดีและคณะ
การศึกษาการ กำจัดสนิมด้วยน้ำผลไม้รสเปรี้ยวมีวัตถุประสงค์โครงงานเพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของการกำจัดสนิมของน้ำผลไม้รสเปรี้ยวชนิดต่างๆในอัตราส่วนเท่ากันและระยะเวลาเหมือนกันมีวิธีดำเนินการดังนี้นำตะปูที่มีสนิมไปทดลองกับน้ำผลไม้รสเปรี้ยว คือ น้ำมะนาว น้ำมะขามเปียก และน้ำมะเขือเทศ นำหลอดทดลองที่เตรียมไว้ 9 หลอด ใส่น้ำมะนาว 3 หลอด ใส่น้ำมะขามเปียก 3 หลอด และใส่น้ำมะเขือเทศ3 หลอด จากนั้นนำตะปูสนิมใส่ไปในหลอดทดลองทุกหลอดแช่ไว้ 1 วัน
 ผลการศึกษาพบว่าการทดลองน้ำผลไม้รสเปรี้ยวทั้ง 3 ชนิด น้ำผลไม้รสเปรี้ยวที่กำจัดสนิมได้ดีที่สุดคือ น้ำมะเขือเทศ รองลงมาคือ น้ำมะนาว และกำจัดได้น้อยที่สุดคือ น้ำมะขามเปียก


บทที่ 3
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า

          วิธีการดำเนินการวิจัยเรื่อง ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัดพะเยา ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิจัยโดยมีการดำเนินการตามขั้นตอนสำคัญดังนี้
          1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
          2. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
          3. การสร้างเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
          4. การเก็บรวบรวมข้อมูล
          5. การวิเคราะห์ข้อมูล

ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
          ประชากร/กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ เรื่อง ความคิดเห็นของชาวบ้านหู่บ้านสันปูเลยตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัด พะเยา

          ตารางที่ 1 แสดงจำนวนประชากรที่ใช้ในการศึกษาจำแนกตามสภาพ


เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม ซึ่งได้พัฒนามาจาก คณะผู้จัดทำได้สร้างขึ้นเองซึ่ง แบบสอบถามแบ่งออกเป็น 2ตอน ดังนี้
          ตอนที่ 1 เป็นแบบสอบถามชนิดตรวจเช็ครายการ (Check list) ใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัดพะเยา (เพศ อายุ อาชีพ)
          ตอนที่ 2 เป็น แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประเมินค่า  (Rating Scale) ชนิด 5 ระดับ ตามวิธีการของ เรนซิสลิเคอร์ท (Rensis  Likert) คือ อยู่ในระดับ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุดใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัดพะเยา


การเก็บรวบรวมข้อมูล
ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการลงพื้นที่เพื่อสำรวจในการทำแบบสอบถามและได้ทำการทดลองให้ชาวบ้านเห็นผลได้ชัดเจนของผลิตภัณฑ์ของใบส้มกบซึ่งมีขั้นตอนในการดำเนินงาน ดังนี้
       1. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการให้แบบสอบถภามกับชาวบ้านและเก็บรวบรวมข้อมูลกลับด้วย
       2. ได้รับแบบสอบถามกลับคืนและตรวจสอบความสมบูรณ์ของแบบสอบถามแล้ว มีความสมบูรณ์จำนวน  40 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ100
       3. นำแบบสอบถามมาตรวจให้คะแนนดังนี้
        4. นำคะแนนที่ได้จัดพิมพ์ลงเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อเตรียมการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์

การวิเคราะห์ข้อมูล
        ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลดังนี้
        1. วิเคราะห์สภาพของความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง  จังหวัด พะเยาจำแนกตาม เพศ อายุและอาชีพ โดยใช้ความถี่และค่าร้อยละ
          2. วิเคราะห์ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยาโดยการหา 
ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยรวมและรายด้าน
           3. วิเคราะห์ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา โดยการหาค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยรวมและรายด้านจำแนกตามสถานภาพ
           4. วิเคราะห์ความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยาโดยการหา ค่าเฉลี่ย, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานโดยรวมรายด้านและรายข้อ
          5. นำผลที่ได้จากการวิเคราะห์ทางสถิติมาแปลผลดังนี้ ตามแนวทางของ เบสต์(Best. อ้างอิงในสวิด  ดวงจันทร์ 2546: หน้า 58)ซึ่งแบ่งคะแนนเป็นช่วง ๆ มีความหมายดังนี้
          ค่าเฉลี่ย 4.50-5.00  แปลความหมายว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากที่สุด
          ค่าเฉลี่ย 3.50-4.49  แปลความหมายว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับมาก
ค่าเฉลี่ย 2.50-3.49  แปลความหมายว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับปานกลาง
          ค่าเฉลี่ย 1.50-2.49  แปลความหมายว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับน้อย
          ค่าเฉลี่ย 1.00-1.49  แปลความหมายว่า มีความพึงพอใจ อยู่ในระดับน้อยที่สุด

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
        แบบสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามวิเคราะห์ด้วย
สถิติพื้นฐาน ดังนี้  บุญสม  ศรีสะอาด (2545 :105)
         1. ค่าสถิติร้อยละ (Percentage) 
         2. ค่าเฉลี่ย (Mean)
         3. ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน(Standard Deviation) 
                  4. ค่าความถี่ (Frequency) 


บทที่ 4
ผลการวิเคราะห์ข้อมูล
การนำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลการศึกษาเรื่องความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบล สันป่าม่วงอำเภอเมือง จังหวัดพะเยาผู้วิจัยได้นำเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลและการการแปรผลที่ได้จากการวิเคราะห์ตามลำดับดังนี้
          ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพบดังต่อไปนี้

ตอนที่ 1 เป็นผลการวิเคราะห์สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถามได้แก่ เพศ อายุ และ อาชีพแสดงไว้ในตารางที่ 2
ตารางที่ 2แสดงจำนวนและร้อยละของครูผู้สอน จำแนกตามเพศ อายุ และ อาชีพ


จากตารางที่ 2 แสดงว่า ว่าด้านเพศของชาวบ้านเป็นเพศหญิงร้อยละ88ซึ่งมากกว่าเพศชายที่คิดเป็นร้อยละ 72ด้านกลุ่มอายุ 30-40 ปี มีจำนวนร้อยละ 60ด้านกลุ่มอายุ 41-50 ปี มีจำนวน ร้อยละ 56และด้านกลุ่มอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นมีจำนวนร้อยละ 44ด้านอาชีพอาชีพข้าราชการ ร้อยละ 32  ค้าขาย ร้อยละ 64 รับจ้าง/ทั่วไป ร้อยละ 36 และอื่นๆ ร้อยละ 28


ตอนที่ 2เป็นผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย
ต่อการมีส่วนร่วมในการให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถาม คือ
1)ขจัดคราบสนิมได้ดี
2)รูปร่างของผลิตภัณฑ์
3)  คุณภาพของผลิตภัณฑ์
4)  ประหยัดเงิน
5)  สะดวกในการใช้งาน
6)  เก็บไว้ใช้ได้นาน
7)  ผลิตภัณฑ์ใบส้มกบใช้ดีกว่าน้ำยาทั่วไป
8)  ใช้แล้วกลับมาใหม่และเงางามเหมือนเดิม
9)  ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แบบแห้ง
10)  ประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แบบน้ำ

ตารางที่ 3 ค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานของความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลยต่อการ
มีส่วนร่วมในการตอบแบบสอบถามโดยรวมและรายข้อ

จากตารางที่  3แสดงว่า ระดับความคิดเห็นของชาวบ้านหมู่บ้านสันปุเลยต่อการมีส่วนร่วมในการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใบส้มกบขจัดคราบสนิม โดยเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก( =4.18) เมื่อพิจารณาจะพบว่า การประหยัดเงินมีค่าเฉลี่ยสูงสด ( =4.57) ส่วนประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์แบบแห้งมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด  ( = 3.87)


บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ

          การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการศึกษาเกี่ยวกับความพึงพอใจของชาวบ้านบ้านสันปูเลย ที่มีผลต่อการทำแบบสอบถามเรื่องใบส้มกบขจัดคราบสนิม ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง เป็นชาวบ้านหมู่บ้านสันปูเลย ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลจาก ผลิตผลิตภัณฑ์ที่ขจัดคราบสนิมด้วยใบส้มกบทั้งแบบแห้งและแบบน้ำและทดสอบประสิทธิภาพว่าใบส้มกบขจัดคราบสนิมได้ดีกว่าน้ำยาที่ขายตามท้องตลาด สรุปผลการวิจัย  การอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ ดังนี้    

สรุปผลการศึกษา
          ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ใบส้มกบแบบน้ำขจัดคราบได้ดีกว่าใบส้มกบแบบแห้ง
2. ใบส้มกบขจัดคราบได้จริง
3.จากการทดสอบประสิทธิภาพของใบส้มกบผลคือใบส้มกบขจัดคราบได้ดีพอๆกับน้ำยาที่ขายตามท้องตลอด

อภิปรายผล
1. ใบส้มกบเมื่อทำการทดลองสามารถขจัดคราบสนิมได้จริงและกลับมาเหมือนใหม่อีกครั้ง
2. เมื่อได้ทำการทดลองปรากฏว่าใบส้มกบแบบน้ำมีประสิทธิภาพดีกว่าแบบแห้ง
3. ผลิตภัณฑ์ใบส้มกบสามารถนำมาใช้ได้ตลอดเวลาและยังเก็บรักษาไว้ใช้ได้นาน